ยอร์คมินสเตอร์ (York Minster) มีชื่อเป็นทางการว่า “The Cathedral and Metropolitical Church of St Peter in York” ถือเป็นอาสนวิหารสไตล์กอธิคที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองยอร์กในยอร์กเชอร์ ทางตอนเหนือของ สหราชอาณาจักร เป็นโบสถ์ประจำตำแหน่งของของอาร์ชบิชอปแห่งยอร์กซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในคริสตจักรแห่งอังกฤษรองจากอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี อาสนวิหารยอร์กถือกันว่าเป็น “high church” ของนิกายแองโกล-คาทอลิก (Anglo-Catholicism) ของคริสตจักรแองกลิคัน ยอร์คมินสเตอร์เป็นสถาปัตยกรรมโกธิคชิ้นเอกและเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและน่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป อาคารปัจจุบันมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 และมีหน้าต่างกระจกสีสมัยกลาง ขึ้นไปหอคอยของมหาวิหารยอร์กเป็นจุดที่สูงที่สุดในเมืองเพื่อชมทิวทัศน์เมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ และชนบทยอร์กเชียร์ที่รายรอบ และเดินเข้าห้องใต้ดินของมหาวิหาร เพื่อเรียนรู้อดีตที่ยาวนาน 2,000 ปี ชมโบราณวัตถุที่เคยเป็นของชาวโรมัน ชาวนอร์มัน และราชวงศ์อื่นๆ

รอบๆ เมือง York จะมีแนวกำแพงเมืองโบราณที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโรมัน ซึ่งสภาพยังคงสมบูรณ์มากๆ เราสามารถเดินเล่นชมเมืองบนกำแพงนี้กันได้แบบยาวๆ และจะเจอกับป้อมปราการเป็นระยะๆ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชม

หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำ Ouse ที่ใจกลางเมืองยอร์ก เคยเป็นส่วนหนึ่งของ York Castle ที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน สร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง หอคอยนี้คือซากปรักหักพังที่คงเหลืออยู่ของปราสาทที่สร้างโดยพระเจ้าวิลเลียม ในศตวรรษที่ 11 เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงระหว่างชุมชนชาวยิวและชาวคริสเตียน ทำให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดเกิดขึ้นของการเสียชีวิตหมู่ของชาวยิวในหอคอยแห่งนี้ และหอคอยที่นี่เคยถูกใช้เป็นคุกอีกด้วย ภายในบริเวณหอคอยมีลานกว้างโอ่โถงประดับด้วยซุ้มประตูโค้งที่สลักบนกำแพงที่อยู่ล้อมรอบ บางครั้งหอคอยนี้มีการจัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองยอร์กผ่านการแสดงเหตุการณ์จำลองและการเล่าเรื่องอีกด้วย

วิหารเซนต์แมรีส์แอบบีย์ตั้งอยู่ในสวนพิพิธภัณฑ์ยอร์กเชียร์ใจกลางเมือง พื้นที่สีเขียวกว้างขวางที่มีสวนพฤกษศาสตร์และสัตว์ป่านี้เป็นสถานที่พักผ่อนอันสวยงามใจกลางเมือง มองลงไปเห็นแม่น้ำ Ouse ทางทิศตะวันตกและหอศิลป์ยอร์กทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

วิหารเซนต์แมรีส์แอบบีย์ ซากกลุ่มอาคารนิกายเบเนดิกตินที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าวิลเลียมในศตวรรษที่ 11  แอบบีย์อันใหญ่โตโอ่อ่านี้เคยเป็นอารามที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ จนกระทั่งพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ปฏิรูปโบสถ์ในทศวรรษ 1500 มีผลให้ถูกยกเลิกใช้งาน และชาวบ้านมาขนหินเพื่อไปต่อเติมบ้านของตัวเอง ปัจจุบันซากปรักหักพัง กำแพงบางส่วน รวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของตัวอาคาร King’s Manor เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยยอร์ก

The Shambles ถนนแชมเบิลส์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเอาส์ใจกลางเมืองยอร์ก โดยอยู่ระหว่างวิหารเซนต์แมรีส์แอบบีย์และหอคอยคลิฟฟอร์ดส์ เป็นถนนสายเก่าในยอร์ก คาดว่าถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยคริตศตวรรษที่ 14 เนื่องจากการตกแต่งตัวอาคารที่มี Fleshammels ยื่นอยู่ใต้ชายคาไว้แขวนโชว์เนื้อนั่นเอง ชื่อ “แชมเบิลส์” มาจากคำว่า “Fleshhammels” (เฟลชแฮมเมลส์) ในภาษาแซกซอน ซึ่งมีที่มาจากการเป็นย่านชำแหละสัตว์ในอดีต

แชมเบิลส์ คือ ถนนในยุคกลางใจกลางเมืองยอร์ก ซึ่งผังถนนที่ยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีแกลเลอรี และร้านขายของที่ระลึกกระจายตัวอยู่ตลอดแนวถนนแคบๆ ถนนแชมเบิลส์ ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำตรอก Diagon Alley ในเรื่อง Harry Potter และทีมงานกูเกิลสตรีทได้โหวตให้ที่นี่เป็นถนนที่งดงามที่สุดในสหราชอาณาจักร และอย่าลืมเยี่ยมชมเครื่องอัดเหรียญยอร์กแชมเบิลส์เพนนีเพรส ซึ่งบีบอัดเหรียญเพนนีและสร้างสรรค์ลวดลายใหม่ตามที่คุณเลือก กดเหรียญของคุณด้วยโลโก้ยอร์กหรือแชมเบิลส์ แล้วนำกลับบ้านเพื่อเป็นที่ระลึกถึงทริปเที่ยวเมืองที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์แห่งนี้

คฤหาสน์ฮาวเวิร์ด หรือ ปราสาทฮาวเวิร์ด ( Castle Howard ) เป็นคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ในเทศมณฑลนอร์ทยอร์กเชอร์

ปราสาทฮาวเวิร์ดเป็นที่พำนักอาศัยส่วนหนึ่งของตระกูลฮาวเวิร์ดมาเป็นเวลากว่า 300 ปี และมาเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปเมื่อใช้เป็น “คฤหาสน์ชนบทไบรด์สเฮด” ในการสร้างละครโทรทัศน์ที่สร้างจากบทละครที่เขียนด้วย อีฟลิน วอ (Evelyn Waugh) โดยเรื่อง “Brideshead Revisited” ในปัจจุบันปราสาทฮาวเวิร์ดเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคฤหาสน์ที่มีคุณค่าอีกแห่งของอังกฤษ ด้านหน้าของปราสาทเป็นทะเลสาบ ด้านหลังเป็นทุ่งไร่ข้าวและเนินเขาสลับกัน สวยงามมากในฤดูร้อน ภายในบริเวณปราสาทมีอนุสาวรีย์, พีระมิด, Temple of the four winds. และมีน้ำพุที่งดงามอยู่ด้านหน้าของปราสาท เหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆ

พิพิธภัณฑ์ York Castle เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองยอร์ก โดยอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำฟอสส์, แต่เดิมสร้างโดย William the Conqueror ในปี 1068 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย John L. Kirk ในปี 1938 และตั้งอยู่ภายในเรือนจำเก่าของปราสาทสมัยศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งครอบคลุมยุคจาโคเบียนและยุควิกตอเรียจนถึงศตวรรษที่ 20 นักโบราณคดีค้นพบพิพิธภัณฑ์ในอาคารเรือนจำสมัยศตวรรษที่ 18 ในปี 1938 สัมผัสบรรยากาศชีวิตนักโทษ ขณะที่คุณเดินผ่านระเบียงอันน่าขนลุก ร่วมทัวร์ห้องขังเพื่อรับฟังเรื่องราวชวนผวาของนักโทษในอดีต ภายในพิพิธภัณฑ์มีแกลเลอรีแบบถาวรหลายแห่ง และนิทรรศการหมุนเวียน มีพื้นที่เด็กเล่น Teddy Trail พื้นที่ส่วน The Sixties เป็นอีกสถานที่ยอดนิยมภายในพิพิธภัณฑ์ เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่วงการดนตรีและศิลปะก่อให้เกิดขึ้นในสังคมอังกฤษในยุค 60 เจ้าหน้าพิพิธภัณฑ์ใน Kirkgate จะแต่งตัวเป็นผู้คนในยุควิคทอเรีย บ้างก็เป็นคนขาย บ้างก็เป็นชาวบ้าน หรือบ้างก็เป็นท่านขุน ที่ทำตัวราวว่ากับอาศัยอยู่ที่นี่จริงๆ เจ้าหน้าที่แต่ละคนอัธยาศัยดีมาก พร้อมที่จะคุยและเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง

York Museum Gardens เป็นสวนพฤกษศาสตร์ในใจกลางเมืองยอร์กประเทศอังกฤษข้างแม่น้ำ Ouse ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10 เอเคอร์รวมบริเวณโบสถ์เซนต์แมรี่ (St Mary’s Abbey) ที่ถูกสร้างขึ้นในยุค 1830

สวนพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ก (York Museum Gardens) สวนสาธารณะกลางเมือง เป็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์แล้ว ภายในสวนเป็นที่ตั้งของโบราณสถาน ซากปรักหักพังของโบถส์ในยุคกลางอย่าง St Mary Abbey กำแพงและหอคอยจากยุคโรมัน รวมถึงพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในประเทศอังกฤษสร้างขึ้นมาเพื่อเก็บชิ้นส่วนและวัตถุทางประวัติศาสตร์ ‘Yorkshire Museum’